“อีกเรืองคือ ผมจะห้ามเลยนะ ทุ่มสองทุ่มแล้วยังเจอพนักงานเด็ก ๆ รุ่นใหม่มานั่งทำงานกันเต็มตึกไปหมด ดึกขนาดนี้แล้วมันเป็นเวลาที่คุณควรได้ไปพักผ่อน ไปอยู่กับแฟน ครอบครัว ทานข้าว ดูหนังฟังเพลง พวกคุณไม่ควรต้องอยู่ทำงานที่นี่ในเวลานี้ ซึ่ง ปตท ก็ไม่ควรต้องมาจ่ายค่าไฟฟ้าด้วย ปตท จ่ายค่าตอบแทนคุณแค่ 5-6 โมงเย็น คุณมาทำอะไรให้ผมตั้งทุ่มสองทุ่ม เราต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานกันใหม่ ผมไม่ชอบ Work Hard นะ ผมชอบ Work Smart ผมอยากให้พวกเราเติมเต็มครอบครัวของคุณ เพราะเมื่อไหร่ที่ครอบครัวคุณแข๋็งแรง ครอบครัว ปตท ของเราก็แข็งแรง” —— ส่วนหนึ่งของข้อคิดจาก ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต CEO ที่ส่งถึงพนักงาน ปตท
นี่เป็นอีกหนึ่งทัศนคติ และวัฒนธรรมที่โดนใจ Gen Y มากนะครับ เพราะ Gen Y ไม่เชื่อในเรืองของการทำงานหนัก และจะมีคำถามเสมอว่าทำไมจะต้อง “ทำเหมือนว่า” งานหนักทั้งที่จริง ๆ มีวิธีการทำงานที่ง่ายกว่านั้น ทำไมถึงกลับบ้านก่อนหัวหน้า หรือคนอื่นไม่ได้ทั้งที่ทำงานเสร็๋จแล้ว และคนที่อยู่ดึกทุกวัน ขยันทำโอที แปลว่าดี ทุ่มเท และรักบริษัท ?
เอ๊ะ หรือคนกลุ่มนี้ทำงานไม่เป็น ทำงานช้าจนเกินเวลา หรือ Manpower น้่อยเกินไป หรือบริษัทไม่ลงทุนในระบบที่จะช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ต้องมา Manual ซ้ำไปซ้ำมา
แล้วถ้าต้องทำงานกับบริษัทที่ให้คุณค่ากับการทำงานหนักแบบนี้ ทุ่มเทแบบนี้ Gen Y จะยังทำอยู่หรือ ? คำตอบคือ ทำครับ แต่ทนทำไปนะ รอไปเจอที่ที่ดีกว่า หรือที่พีคกว่า Gen ํY ตัวพ่อตัวแม่ทั้งหลายก็โบกมือลาเลย ผม / ชั้น อยากมีเวลาไปดูหนังฟังเพลงอยู่กับแฟน ไม่ใช่อยู่กับ Manager
ถ้า Gen Y คือกลุ่มคนที่สำคัญสำหรับคุณ ที่จะช่วยรักษาให้องค์กรอยู่รอดต่อไปได้ คุณต้องปรับตัวครับ ทั้งตัวองค์กรเอง ทั้งผู้บริหารและ Line Manager กับปรับทัศนคติและสื่อสารกันจะทำให้เข้า่ใจกันมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนอย่างที่ ปตท ทำ
แต่จะได้ผลมากแค่ไหน จะมีอะไรที่มากกว่านี้อีกมั้ย คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มนะครับ
#HRTheNextGen