06.02.2016
สวัสดีสายวันเสาร์ครับ
นี่ลุกจากเตียงก็เปิด Facebook เลยนะ ผมว่าผมต้องติด social แน่ ๆ เลย
ย้อนไป Post แรก ๆ ของเพจ ผมเคยพูดถึงเรือง career landscape ไว้ว่าเป็น trend ใหม่ของคนยุคนี้
ใครยังไม่ได้อ่าน ลองย้อนไปดูนะครับ ตาม Link นี้เลย
http://goo.gl/ILxDNH
ทีนี้ผมก็เกิดคำถามขี้นมาว่า เฮ้ย ถ้าการเติบโตทางกว้างแบบนี้ ไม่ได้เติบโตแนวตั้งเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน จาก Officer เป็น Supervisor แล้วไปเป็น Manager มาเป็นแนวนอน จาก HR ไปทำ CSR ไปทำ Marketing Communication ไปทำการเงิน
แบบไหนใช่มากกว่ากัน ?
ถ้าต้องตอบแทนคนทั้งโลก ผมตอบไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน หลายคนคิดไปว่า เฮ้ย เด็กใหม่ Gen ใหม่ ต้องการแบบสองแน่ ๆ เลย ได้ประสบการณ์ใหม่ไปเรือยๆ ไม่น่าเบื่อไม่จำเจ ชอบการเปลี่ยนแปลงเสมอ
บางทีเวลาเราอ่านเรืองพวกนี้ ก็ทำให้เพลินจนคิดอะไรแบบเหมารวมไป ผมมั่นใจว่าไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ทั้งหมดที่จะคิดแบบนี้ แล้วการคิดแบบนี้คนอายุเยอะ ๆ ก็อาจจะอยากได้งานที่ท้าทายเหมือนกันนะ
ถึงแม้ว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะชอบงานที่ท้าทาย อยากเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่ก็ยังมีเด็กส่วนหนึ่งที่มองว่าการรู้ลึกรู้จริง เป็นมืออาชีพในงานนั้น ๆ ก็เป็นจุดขายให้เค้าได้เหมือนกัน อย่างเช่น พูดถึงเรือง HR ปั๊บ ก็นึกถึง HR The Next Gen เลยงิ
#การบริหารคนทำให้ทุกคนพอใจมันเลยไม่ง่าย#OneSizeไม่เคยFitAll
งั้นแสดงว่าการวางกฏระเบียบ เงื่อนไขต่าง ๆ ก็ควรจะหลากหลาย ตอบโจทย์คนทุกคนสิ !!!
อันนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ยิ่งคาดหวังสูงก็ยิ่งผิดหวังมาก
ลองนึกดูว่าถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัท หรือเป็นผู้บริหาร เราอยากจะดูแลพนักงานของเราอย่างดีที่สุด เท่าที่โอกาสและเงือนไขต่าง ๆ จะเอื้ออำนวย แต่จะให้ทุกคนได้ทุกอย่างอย่างที่ต้องการทั้งหมดมันก็เป็นไปได้ยาก พาลูกไปกินข้าวในห้าง คนนึงอยากกินไก่ทอด คนนึงอยากกินชาบู อีกคนอยากกินไอติม ถ้ามี Food Court เราก็คงพาเดินไป Food Court เพราะน่าจะมีให้เลือกเยอะ แต่ขนาด Food Court ก็ยังไม่มีชาบูอยู่ดี
พยายามเต็มที่ก็ยังคนผิดหวัง
HR หรือผู้บริหาร เมือ่ไหร่ที่มีการกำหนดระเบียบ หรือเงื่อนไขอะไรมาใช้กับพนักงาน ก็ต้องหาให้เจอนะครับ ว่าคนที่มีโอกาสจะผิดหวังอยู่ที่ไหน แล้วจะทำอย่างไร ให้เค้ารู้สึกดีขึ้นได้ เพราะถ้าเราเป็นเค้า เราก็คงเซ็งไม่น้อยเหมือนกัน