“การให้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกว่าเราเห็นคุณค่าในตัวคนคนนั้น”
นีคือประโยคที่ผมชอบที่สุดในบทสัมภาษณ์ของคุณเกษมสุข จงมั่นคง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงิน และรองกรรมการผู้อำนวยการสายบริหารทรัพยากรบุคคล MBK GROUP
ใครยังไม่ได้ฟัง ไปลองฟังย้อนหลังได้ที่ Link นี้นะครับ https://goo.gl/kMbd6L
ที่ชอบเพราะว่าประโยคนี้มันชัดเจนดี เพราะถ้าเราไม่เห็นคุณค่าของใคร เราคงไม่อยากให้โอกาสกับคนคนนั้น คำถามทีตามมาในหัวก็คือ
เราเนี่ยมีคุณค่าพอที่จะให้คนอื่นเห็นมั้ย
คุณค่าที่ว่าเนี่ย เมื่อเราเทียบกับคนอื่นแล้ว เราเหนือกว่าเค้า หรือว่าเราช้ากว่าใครหรือเปล่า
แล้วเราอยู่ในที่ที่มีโอกาสเหลือหรือมีโอกาสอยู่จำกัด
พูดถึงเรื่องเหลือเฟือหรือจำกัดนี่ นี่ความเห็นส่วนตัวผมนะใครที่อยู่ในองค์กรที่เป็น Group คือมีมากกว่า 1 บริษัทหรือก็จะได้เปรียบหน่อย เพราะถ้าทำงานไปซักระยะนึงแล้วเจอทางตันในบริษัทตัวเอง หัวหน้าคนเก่าไม่ลาออกซักที ก็ยังมีโอกาสที่จะโตบริษัทอื่นในกลุ่มได้ อย่างที่คุณเกษมสุขบอกไว้ ถ้าธุรกิจศูนย์การค้าของ MBK ยังไม่มีตำแหน่งว่างให้โต ก็ไปโตที่ธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจข้าว ธุรกิจการเงิน ในกลุ่มของ MBK ได้เหมือนกัน
แต่มีข้อแม้ว่า คุณต้องเจ๋งจริงด้วยนะ แล้วความเจ๋งจริงนี่แหละ ที่ต้องตีความ เพราะเจ๋งไม่ได้แปลว่าแค่เก่ง แต่ต้องได้รับการยอมรับจากคนที่กำลังมองหาคนมารับโอกาสด้วย
“โอกาสต้องพอเหมาะพอดีกับความพร้อมของแต่ละคนด้วย บางคนโอกาสอยู่ตรงหน้า แต่คว้าเอาไว้ไม่ได้ ในขณะที่บางคนพร้อม แต่นั่งรอโอกาสเฉย ๆ ไม่ออกเดินทางไปหาโอกาสบ้าง หรือไม่ออกไปแข่งขันบ้าง โอกาสนั้นก็เป็นของคนอื่นไป ต้องไม่ลืมว่าทุกคนอยากได้โอกาส แต่เมื่อโอกาสมีจำกัด เราก็ต้องสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสนั้นด้วยเหมือนกัน”
นี่ผมถอดมาทั้งท่อนเลยที่คุณเกษมสุขพูดถึง ต้องไม่ลืมว่าโอกาสมีจำกัด ถ้าเราอยากได้ ก็ต้องสู้กันหน่อย จะมาเอาตอนนี้ หรือเตรียมความพร้อมมาก่อนเพื่อที่จะสู้ ผมว่าเราทุกคนรู้แก่ใจกันอยู่นะ
อ้อ มีอีกเรื่องอันนี้ขออวยกันแบบตรงไปตรงมา เรื่องการให้โอกาสสำหรับผู้พิการของ MBK GROUP ที่ไม่ได้ให้โอกาสผู้พิการตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น แต่ทำด้วยความจริงใจ ไม่ได้ให้แค่งาน แต่ให้เกียรติกันด้วย
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างนึงเมื่อเรานึกถึงบริษัทที่ให้คุณค่ากับคนจริง ๆ
เพราะคนคือทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับองค์กรครับ