จำได้ว่าวันก่อนเพิ่งประกาศว่าเข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการ เช้านี้ฝนตกหนักเลย ไม่พอใจอะไรหรือเปล่าหว่าผลก็คือ ตื่นสายเลย และที่แน่นอนกว่านั้นคือ ไปทำงานไม่ทันแน่ ๆ ดีที่เช้านี้ไม่มีประชุมอะไร
หัวหน้าครับ ผมขอเข้าบ่ายเลยนะครับ
ตามสบายเลย พี่ว่าวันนี้พี่ไม่เข้า บ้านพี่น้ำท่วม
ชีวิตดี ๆ ของคนทำงาน
มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ เนี่ย การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญครับ เพราะหลายบริษัทยังเข้มงวดเรื่องของเวลาในการทำงาน เข้าต้องตรงเวลานะ เข้างาน 8 โมงแปลว่าต้องมาสแกนบัตรก่อน 8 โมง มาแปดโมงกว่าก็แปลว่าสายนะครับ
ส่วนบทลงโทษของการมาสายก็ว่ากันไป อาจจะไปรวมรวมแล้วหักเป็นวันลา หรือจะไปหักจากเงินพิเศษอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน สายบ่อย ๆ ก็อาจจะมีตักเตือน อันนี้บริษัทไม่ได้ผิดนะครับ เราเข้าไปอยู่ในองค์กรไหน ก็ต้องเคารพกฎ เคารพระเบียบที่บริษัทตั้งไว้ แต่บริษัทเองก็ต้องเอาให้ชัวร์นะว่าไม่ได้มีอะไรที่ผิดกฎหมาย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่มันเกินกว่าเหตุ
ทีนี้ อันนี้เพิ่มเติมเอาไว้ให้เป็นแนวทางนะครับ อย่างกรณีวันเนี้ย ฝนตกหนักแต่เช้า ซึ่งก็เดาได้เลยว่าจะมีคนไปทำงานสายเยอะแน่ ๆ แต่ก็จะมีคนจำนวนนึงล่ะที่ไม่ไปทัน
หลายบริษัทเวลาที่มีเหตุผิดปกติแบบนี้ สิ่งที่เค้าทำคือ จากเดิมมาหลัง 8 โมงถือว่าสาย ถ้าเวลาเข้างานปกติคือ 8 โมง ให้เป็นหลัง 9 โมงถือว่าสาย ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าให้ดี HR ก็น่าจะเป็นคนชงขึ้นไปเพื่อขอให้ผู้บริหารอนุมัติ
เราไม่ได้ทำเป้ายอดคนมาทำงานสายนะ ยิ่งมาสายเยอะ ๆ ยิ่งดีใจ อันนี้ไม่น่าใช่ ก็ลองพิจารณาดูตามความเหมาะสม
ส่วนพนักงานเอง ก็อาจจะต้องแฟร์ ๆ กับบริษัทด้วย สมมติว่าเป็นบริษัทที่จ่ายโอที ถ้าวันนี้มาสายแล้ว ตอนเย็นเลิกเย็นกว่าปกติ จะขอโอทีในวันแบบนี้มั้ย ก็แล้วแต่จะลองพิจารณาดูนะครับ
เรื่องเนี้ยแค่เรื่องเล็ก ๆ แต่ผมอยากจะบอกว่า บริษัทและพนักงานจะอยู่ด้วยกันได้ดีมาก ๆ ถ้าบริษัทไม่คิดอยู่เสมอว่า พนักงานพยายามอย่างที่สุดที่จะหาทางอู้งาน และพนักงานก็ไม่คิดอยู่เสมอว่า บริษัทพยายามจะเอาเปรียบเราให้ได้มากที่สุดเหมือนกัน
เพราะถ้ายังคิดแบบนี้อยู่ จะทนทำงานอยู่ด้วยกันไปทำไม จริงมั้ย
ขอให้ไปทัน 9 โมงนะ